+++ บอลไทยหัวใจขี้แพ้

พอดีมีโอกาสได้อ่านบทความใน manager.co.th เลยเกิดความรู้สึกว่ามันเป็นอย่างที่เค้าว่าจริงๆ เลยอยากให้เพื่อนๆได้ลองอ่าน แล้่วลองคิดกันว่า มันเป็นอย่างที่เค้าได้เขียนเอาไว้จริงๆหรือป่าว ถ้าหากซ้ำลบได้เลยนะคับ คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร เมื่อใช้กรรมการฟีฟ่าชาติเป็นกลาง ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ที่โคราชกลับมีคุณค่ากว่าเป่ากันเองแบบไทยๆ แล้วเป็นสิ่งพิสูจน์หัวใจกองเชียร์ชาวไทย ทีมชาติไทยแพ้ได้ ขอให้แพ้อย่างสมเกียรติ นักเตะทุ่มเทเต็มที่ แฟนบอลชาวไทยทำไมจะรับไม่ได้ ผมดูทีมชาติไทยเล่นทั้ง 3 แมตช์ หลังเกมกับเดนมาร์กสรุปว่า ทีมชาติไทยอยู่ห่างคำว่าพัฒนาหลายกิโลฯ ความคุ้นเคยกับเสียงนกหวีดของกรรมการชาวไทย เกมกับสิงคโปร์ โปแลนด์ และเดนมาร์ก นักเตะไทยเฝ้ารอเสียง (สวรรค์) นกหวีดเป่าเอื้อเจ้าภาพจากกรรมการชาวแอฟริกันที่พยายามทำให้เกมเป็นเกมและยุติธรรม ธีรเทพ วิโนทัย (ลีซอ) กำลังจะเป็นนักเตะที่เข็นไม่ขึ้นเอาจริงๆ เพราะสื่อไม่อยากแตะหรืออะไรก็แล้วแต่ ประสบการณ์จากอังกฤษกับเบลเยี่ยมช่วยเกือบไม่ได้เลย และอีกไม่นานจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ลีซอเรียนจบดอกเตอร์ด้านภาษาอังกฤษมาหรืออย่างไร จึงมีปัญหากับเสียงนกหวีดของกรรมการบ่อยมาก นี่ไม่ใช่เกมแรกที่เขาตีหน้าเซ่อเด๋อด๋าแสดงความบริสุทธิ์ หลังจงใจเล่นฟาวล์ต่อหน้ากรรมการ การกระโดดกางแขนใส่นักเตะสิงคโปร์ ถ้าไม่เพิ่ม “จังหวะ” สองที่จงใจใช้ท่อนแขนดีดกระโดงคางคู่ต่อสู้ กรรมการคงไม่ชูเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออก ถ้าเป็นกรรมการชาวไทยจังหวะนี้คงปล่อยผ่านและการเล่นนอกเกมอย่างไม่เกิดประโยชน์จะเพิ่มมากขึ้น โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสโมสรแชมป์ยุโรปบาร์เซโลน่ายังแนะนำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หุบปากและตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมของตัวเอง รู้จักเคารพกรรมการ ถึงแม้บางครั้งกรรมการเป็นฝ่ายผิดพลาด นักเตะต้องรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมทีมกรณีถูกไล่ออกอย่างโง่ๆ และต้องรู้จักแคร์ความรู้สึกของแฟนบอลด้วย การฟาวล์เพื่อตัวเองกับเพื่อทีมแฟนบอลแยกแยะได้ นักเตะจะไม่ถูกตำหนิหรือกล่าวโทษเสมอไป เมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกไล่ออก เขากล่าวคำขอโทษเพื่อนนักเตะรีล มาดริดและรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริง นักเตะไทยเป็นพวกใจขี้แพ้ ตัวอย่างนี้แสดงชัดเจนแมตช์ที่เล่นกับโปร์แลนด์ วันนั้นถ้าทีมไทยแพ้ 3-0 ผมคงมองไม่เห็นจิตใจ “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” ของลูกทีมไบรอัน ร็อบสัน แต่สกอร์ 3-1 ต่างหากที่จิตใจขี้แพ้กระจายเกลื่อนสนาม ลองไปขอยืมเทปบันทึกการแข่งขันจากช่อง 7 สี มาฉายดูใหม่สัก 2-3 รอบก็ได้ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ยิงจุดโทษเข้าไป เทิดศักดิ์เดินกลับออกมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครสักคนเข้ามาแสดงความดีใจ แม้แต่กัปตันทีม เกมที่เดนมาร์กถล่มไทย 3-0 หลังทำประตูทีมไทยได้ทุกประตู นักเดนมาร์กเข้าไปแสดงความยินดี กอดบ้าง ลูบศีรษะบ้าง ตบหลังบ้าง ให้กำลังใจกันและกัน การแสดงความดีใจด้านหนึ่งคือความเคารพคู่แข่งว่าพวกเขาไม่ได้ไล่ยิงหมู อีกด้านเป็นการเสริมสร้าง “สปิริต” ของทีมให้แกร่งและทรงพลัง จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซีและทีมชาติอังกฤษ ไม่เคยละเลยที่จะชื่นชมลูกทีม ผมทายว่า..นักเตะไทยทุกคนแม้แต่เทิดศักดิ์คิดว่าทีมแพ้อยู่แล้ว 3-1 คงไล่ไม่ทัน ยิงจุดโทษได้จึงไม่มีใครแสดงความยินดี ทุกคน “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” นี่แหละสันดานแก้ไม่หาย ทั้งๆ ที่ยังมีเวลาอีก 3-5 นาที เพียงพอที่จะเพิ่มความฮึกเหิมให้ยิงได้อีกสัก 1 ประตู แต่เมื่อสปิริตทีมไม่มี นักเตะสิ้นหวังไม่รู้ ทีมชาติไทยจะไปได้ถึงไหน แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ ทีมแองโกล่ายิงถล่มมาลี 4-0 เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์ดังกล่าว ทว่า ช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายเกอีต้ากองกลางจากบาร์เซโลน่ายิงประตูตีไข่แตก เพื่อนร่วมทีมมีหัวใจเป็นมืออาชีพรุมล้อมแสดงความยินดี สปิริตของทีมแข็งแกร่งและไม่ขี้แพ้ ก่อนนกหวีดหมดเวลาประตูที่ 2 ตามมา ขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นเพิ่มพูน ช่วงทดเวลามาลียิงอีก 2 ประตูจบด้วยผลเสมอ 4-4 นี่คือตัวอย่างหัวใจไม่ขี้แพ้ที่นักเตะไทยควรเรียนรู้ แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอล ตราบเสียงนกหวีดยาวยังไม่ดัง นักเตะอาชีพจะไม่สิ้นหวัง ถึงจะพ่ายแพ้พวกเขาก็ได้ใจกองเชียร์... แฟนบอลชาวไทยรอปรบมือให้นักสู้ตลอดเวลา

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++เชลซีถอยไป! ปืนโดนก่อนสองไล่แซง 4-2 นำฝูง

"ปืนใหญ่"อาร์เซนอ ลของแรงห้ามไม่อยู่จากการทำท่าจะแพ้คาบ้านหลังถูกโบลตันบุกมายิงก่อนถึง 2-0 แต่สุดท้ายไล่แซงรวดเดียว 4 เม็ดแซงทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงมี 48 แต้ม + 34 เท่ากันแต่ประตูยิงได้มากกว่า


พรีเมียร์ ลีก

วันพุธที่ 20 มกราคม 2553


อาร์เซนอล 4-2 โบลตัน

ประตู :
0-1 แกรี่ เคฮิลล์ น.7,0-2 แม็ท เมย์เลอร์(จุดโทษ) น.28,1-2 โธมัส โรซิคกี้ น.43,2-2 ฟาเบรกาส น.52,3-2 เฟอร์มาเลน น.65,4-2 อาร์ชาวิน น.85


นัดนี้ทางเจ้าบ้านต้องเน้นชัยชนะเป็นพิเศษ เพราะหากเก็บ 3 แต้มได้พวกเขาจะแซงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และจะได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงร่วมกับเชลซีทันที และหากชนะได้มากกว่า 2 ลูกก็จะส่งให้พวกเขาขึ้นไปครองจ่าฝูงเดี่ยวๆได้เลยทีเดียว

ครึ่งแรก

โบลตันเซอไพร์!!
อาร์เซนอลช็อคตาตั้งเลยทีเดียว หลังกลิชี่เคลียร์บอลจากหน้าประตูไม่ดี ซัดบอลลอยโด่งอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่เควิน เดวีส์จะโหม่งชงไปให้กับแกรี่ เคฮิลล์ที่ยืนรอโล่ง ๆ ไม่ถึง 10 หลา ยิงตามน้ำด้วยซ้ายเข้าไปชนิดที่เรียกว่าอัลมูเนียเซฟยังไงก็ไม่ทันจริง ๆ ส่งผลให้ทีมเยือนออกนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ต้นเกมส์

เจ้าถิ่นโต้บ้างเกือบได้
อยู่เฉยไม่ได้แล้วสำหรับอาร์เซนอล หลังจากโดนขึ้นนำเลยต้องพยายามตั้งเกมส์บุกกลับคืน โดยมีโอกาสยิงจากเอดูอาร์โด้ที่ได้ซัดด้วยซ้ายข้างถนัดตรงแถว ๆ กรอบเขตโทษฝั่งซ้ายบอลพุ่งเหมือนจะเข้ากรอบแต่เหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่า นั้น

อัลมูเนียเซฟโคตร
อาร์เซนอลเกือบโดนนำห่างไปสองลูกแล้ว หลังโบลตันได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ทางซ้ายก่อนที่เทย์เลอจะรับหน้าที่ปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งโค้งกำลังจะเสียบเสา แต่อัลมูเนียโชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งสุดตัวมาปัดเอาไว้ได้ก่อน

โบลตันได้จุดโทษ!!
สวรรค์แทบล่มสำหรับอาร์เซนอล หลังจากเดนิลสันไปสกัดบอลช้าหนึ่งจังหวะ ทำให้รวบผุ้เล่นของโบลตันลงในเขตโทษ อลัน ไวลี่ย์ชี้เป็นลูกจุดโทษทันทีชนิดที่เรียกได้ว่านักเตะปืนใหญ่แทบจะโต้เถียง ไม่ได้เลย แม็ท เทย์เลอร์รับหน้าที่สังหาร ยิงไปทางขวาลูกพุ่งแรงและมุดลงเร็วทำให้อัลมูเนียที่ดูเหมือนจะพุ่งไปเซฟทัน นั้นคว้าไว้ไม่อยู่ โบลตันออกนำห่างอาร์เซนอล 2-0 ช็อคคนทั้งสนาม

ปืนเกือบได้คืน
หลังเสียประตูได้ไม่ถึง 5 นาทีอาร์เซนอลก็มีโอกาสงาม ๆ ที่จะได้ตีไข่แตก จากลูกจ่ายทะลุช่องของฟาเบรกาสที่ลากบอลผ่านนักเตะโบลตันมาสองถึงสามคน ให้กับเอดูอาร์โด้ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวแต่งบอลก่อนจะล้มตัวยิงด้วยซ้าย แต่ยัสเคไลเน่นไม่พลาดอ่านทางบอลล้มตัวตระครุบได้ทัน

เกมส์เริ่มหนัก
พอออกนำห่าง 2-0 โบลตันก็พยายามเล่นให้แน่นอนขึ้น และเล่นหนักมากขึ้น เพื่อไม่ให้อาร์เซนอลได้เล่นเกมส์อย่างที่พวกเขาถนัด โดยสอยทั้งโรซิคกี้ และเอดูอาร์โด้คว้าสองสามครั้งเลยทีเดียว แต่ยังไม่มีใบเหลืองหลุดออกมาจากกระเป๋าของไวลี่ย์เลยสักครั้ง

ชนคาน!!
โบลตันเกือบเสียกระบวนซะแล้ว หลังตัดฟาวล์เยอะ จนอาร์เซนอลได้ฟรีคิกเกือบ ๆ กลางสนาม ฟาเบรกาสรับหน้าที่เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ กัลลาส์กำลังจะวิ่งไปจุดนัดพบ แต่เควิน เดวีส์เห็นก่อนพยายามจะเข้าไปโหม่งสกัดให้ออกหลัง แต่บอลลอยไปชนคาน โชคดีที่บอลไม่เด้งเข้าประตู แต่อยู่ในระยะที่ยัสเคไลเน่นจะสามารถคว้าเอาไว้ได้ โบลตันรอดจากการเสียประตูหวุดหวิด

พี่กี้สุดยอดดดดด
อาร์เซนอลบดจนได้เรื่อง หลังฟาเบรกาสไปเบียดแย่งบอลจากทางฝั่งโบลตันมาได้ ก่อนที่จะจ่ายต่อให้กับโรซิคกี้ทางฝั่งขวา กองหลังโบลตันพยายามดักทางเปิดของพี่กี้ แต่ที่ไหนได้อยู่ดี ๆ โรซิคกี้ซัดด้วยขวาทันที บอลพุ่งเสียบเสาชนิดที่ว่ายัสเคไลเน่นได้แต่มองแล้วด้วยซ้ำ อาร์เซนอลตามมาเป็น 2-1 แล้ว

เชสก์ปั่นเกือบเฮ
เกือบได้สองลูกในเวลาแค่ 2 นาทีซะแล้ว โดนฟาเบรกาสมีโอกาสหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ็าย ปั่นโค้งด้วยเท้าขวาข้างถนัด แต่ยัสเคไลเน่นยังปัดออกไปได้ โบลตันระส่ำหนักแล้วในตอนนี้

แม้พลพรรคปืนใหญ่จะพยายามบุกกดดันหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อยิงประตูตีเสมอให้ได้ แต่ทางโบลตันก็ยังคงต้านไว้อยู่ ทำให้จบ 45 นาที โบลตันนำอาเซนอลเจ้าบ้านอยู่ 2-1 งานนี้เวนเกอร์คงต้องปลุกใจลูกทีมให้ดีกว่านี้ หากหวังจะขึ้นจ่าฝูงร่วมกับเชลซี เมื่อจบเกมส์นี้ เพราะเกมส์ของอาร์เซนอลในช่วง 15 นาทีก่อนจบครึ่งแรกถือว่าเหนือกว่าโบลตันมาก

ครึ่งหลัง

ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ในครึ่งหลังนี้หากทางโบลตันต้องการมีแต้มติดมือกลับบ้านแล้วละก็ คงจะ้ต้องเล่นให้ดีกว่าในช่วงท้ายครึ่งแรก ไม่งั้นแล้วพวกเขาอาจจะพลาดท่าให้แก่ "ปืนโต" ก็เป็นได้

ประตูปัญหา!!!
โดนจนได้สำหรับทางโบลตัน โดยเป็นจังหวะบอลคลุกคลิกอยู่หน้ากรอบเขตโทษของโบลตัน กองหลังสกัดไม่ขาดสักที ทำให้ลอยล้นไปทางฟาเบกาสที่รออยู่ทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดมุมแคบ ลดหว่างขาของยัสเคไลเน่นเข้าไปอย่างสวยงาม แต่จังหวะนี้มีปัญหาให้พูดถึงแน่นอนเพราะก่อนหน้าที่ฟาเบรกาสจะหลุดเข้าไป ยิงได้ กัลลาส์ไปย่ำข้อเท้าของมาร์ค เดวีส์ที่ดูจากภาพช้าแล้วอาจจะถึงขั้นหักได้เลย แต่ทางอาร์เซนอลไม่หยุดเล่น และผู้ตัดสินก็ไม่เป่าฟาวล์ หรือเป่าหยุดเกมส์ทำให้อาร์เซนอลตีเสมอโบลตันเป็น 2-2 แล้ว

หลังจากนั้นได้มีการปฐมพยาบาลมาร์ค เดวีส์อยู่ร่วม ๆ 5 นาทีก่อนที่เจ้าตัวจะถูกหามส่งโรงพยาบาล เพราะดูเหมือนว่าข้อเท้าอาจจะหัก หรือแตก ทำให้คอยล์ไม่มีทางเลือกต้องส่งแม็คแคนลงมาเล่นแทน

เกือบพลิก!
โมเมนตั้มไหลมาทางเจ้าถิ่นเต็มที่แล้วตอนนี้ และทางปืนใหญ่ก็เกือบพลิกขึ้นนำไปได้ โดยฟาเบรกาสทำชิ่ง 1-2 กับอาร์ชาวิน ก่อนที่จะลากไปซัดด้วยซ้ายเต็ม ๆ หน้ากรอบเขตโทษ ยัสเคไลเนนกระโดดปัดสุดตัวข้ามคานไปได้ ไม่งั้นแล้วลูกนี้มุดเสียบใต้คานแน่นอน

3-2 โคตรมันสสสสส์
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากอาร์เซนอลได้ลูกเตะมุมฟาเบรกาสเปิดบอลเข้ามา จังหวะแรกเฟอร์มาเลนพยายามขึ้นโหม่ง แต่ไม่ถนัด ทำให้บอลล้นกำลังจะออกจากเขตโทษ แต่พี่บี้โหม่งกลับมาเข้าทางเฟอร์มาเลนอีกครั้งหนึง คราวนี้ไม่ใช้หัวแล้ว แต่ซัดด้วยเท้าซ้ายเต็ม ๆ บอลพุ่งชนเสาก่อนจะเข้าไปนอนกลิ้งอยู่ก้นตาข่าย ยัสเคไลเนนหมดสิทธิ์รับ และอาจจะบ่นในใจว่านี่เฟอร์มาเลนใช่กองหลังจริงๆหรอ ทำไมยิงคมขนาดนี้ ส่งผลให้อาร์เซนอลโชว์การคัมแบ็คสุดยอด แซงจาก 0-2 ขึ้นมานำเป็น 3-2 แล้ว

ปืนเริ่มเน้นครองบอล
หลังจากเร่งจนสามารถพลิกมาขึ้นนำได้แล้ว อาร์เซนอลก็ค่อย ๆ ต่อบอลมากขึ้น โดยเน้นการครองบอลมากกว่าการจ่ายขึ้นหน้า ทำให้ทางโบลตันได้มีโอกาสบ้าง แต่ก็ยังไม่จะแจ้งเท่าไร และดูเหมือนทีมเยือนจะใจเสียไม่น้อยด้วย

ปืนขอลุ้นจุดโทษ
ขอได้ลุ้นจุดโทษบ้างสำหรับทางเจ้าบ้าน โดยฟาเบรกาสมีโอกาสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย หลังจากวิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปได้ แต่ดูเหมือนจะแตะยาวจนเกินไป ทำให้ยัสเคไลเนนพุ่งออกมาสะกัด เจ้าตัวล้มหน้าคะมำ แต่กรรมการเฉย เพราะจังหวะนี้กัปตันทีมปืนโตน่าจะไม่มีโอกาสยิงแล้ว อีกทั้งบอลก็ออกหลังไปแล้วด้วย

ไปข้างหน้าอย่างอาชา!!!!
ปิดกล่องด้วยประตูสุดสวย จาการทำชิ่ง 1-2 อาร์ชาวิน และเอดูอาร์โด้ หลบกองหลังของโบลตันได้ถึง 2 คนก่อนที่อาร์ชาวินจะหลุดเข้าเขตโทษ แล้วพลิกบอลหลบกองหลังโบลตันอีกคนหนึง ก่อนจะซัดด้วยขวาเต็มตีนเตี่ย บอลพุ่งเสียบตาข่าย อาร์เซนอลรัวปืนใส่โบลตันยับ ออกนำห่างเป็น 4-2 อย่างยอดเยี่ยม ชนิดผู้บรรยายทาง Sopcast ของคนทำผลบอลรัวลิ้นพูดไม่หยุดปากเลยทีเดียว

ช่วงท้ายเกมส์อาร์เซนอลมีโอกาสบวกเพิ่มจากการสวนกลับเร็ว ก่อนที่บอลจะหลุดไปถึงอาร์ชาวิน ที่ลากเดี่ยวหลบกองหลังของโบลตันไปได้ แต่กลับเลือกที่จะยิงเอง ทั้ง ๆ ที่ทางฝั่งขวามีทีโอ วัลคอตยืนโล่งโจ้งอยู่คนเดียวแท้ ๆ ทำให้ยัสเคไลเนนออกมาบล็อคได้ทัน

จบ 90 นาที อาร์เซนอลโชว์ฟอร์มสุดยอด คัมแบ็คกลับมาเอาชนะโบลตันไปได้อย่างสวยงาม 4-2 ส่งผลให้ "ปืนใหญ่" พุ่งขึ้นเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกทันที แซงทั้งแมนยูไนเต็ด และเขี่ยเชลซีตกบัลลังค์ ด้วยคะแนน 48 แต้มเท่ากัน ลูกได้เสียเท่ากัน แต่ทางปืนใหญ่ยิงประตูได้มากว่า และเตะมากกว่า 1 นัด

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 7,บาคารี่ ซาญ่า 6,วิลเลี่ยม กัลลาส์ 5,โธมัส เฟอร์มาเลน 7,กาแอล กลิชี่ 7,เชสก์ ฟาเบรกาส 9*,เดนิลสัน 7,ดิอาบี้ 8(อีสมอนด์ 7 น.77),โธมัส โรซิคกี้ 8(เบล่า 6 น.88),อังเดร อาชาวิน 7,เอดูอาโด้ ดาซิลวา 7(วัลคอต 6 น.90)

โบลตัน : ยุสซี่ ยัสเคไลเนน 5,เกทาร์ สไตน์สสัน7,แกรี่ เคฮิลล์ 7,แซท ไนท์ 7,พอล โรบินสัน 6(ริคเก็ตตส์ น.90),ลี ชุน ยอง 7(คลาสนิค น.81),มาร์ค เดวีส์ 7(แม็คแคน น.57),ฟาบริซ มูอัมบ้า 6,ทาเมียร์ โคเฮน 5,แมทธิว เทย์เลอร์ 8,เควิน เดวีส์ 9

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++แตกต่างแต่เติมเต็ม

แปลกมั๊ย..ใคร ๆ ก็คิดว่าเวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ
จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อย

เวลา... เดินไปข้างหน้า
นาฬิกา.. เดินอยู่ที่เก่า

เวลา.. เราไม่อาจย้อนกลับ
นาฬิกา.. เราหมุนย้อนมันได้

เวลา.. เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน
นาฬิกา.. เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ได้

เวลา.. ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกับอะไร
นาฬิกา.. ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น

แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไง ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน

แต่ถามหน่อย.. ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย
หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร
ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว
ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันรึป่าว?

เวลากับนาฬิกา ก็เหมือนฉันกับเขา

ฉันกับเขา.. อาจไม่มีอะไรเหมือนกัน
ฉันกับเขา.. มีความคิด และวิถีชีวิตที่ต่างกัน
ฉันกับเขา.. อาจเดินกันคนละเส้นทาง
ฉันกับเขา.. อาจมีความฝันที่ห่างไกลกัน

ฉัน.. อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า
หาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง

เขา.. อาจเหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ
ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ

ฉันอาจไม่พบกับเขาเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า
ฉันอาจไม่พบกับเขาเลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง

เขายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิม ๆ
เขายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป

แต่ฉันยังเฝ้ามอง เฝ้ารอ …

ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเขาไว้
แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นน่ะแหละ
ที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหากัน

ความแตกต่าง จะเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย
และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงแค่คำว่า.. กันและกัน
เหมือนกับเวลาและนาฬิกา ที่ยังคู่กันเสมอมา และตลอดไป

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++ความสุขของการได้รัก

ความจริงก็คือ ในขณะที่เรากำลังคิดถึงใครคนนึงตลอดเวลา เค้าคนนั้นอาจกำลังคิดถึงใครคนอื่นอยู่ก็เป็นได้ และบางครั้งก็อาจมีใครบางคนที่คิดถึงเราอย ู่ โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน บางครั้งการได้ฝันไปคนเดียว มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า... "สิ่งที่เราคิดทั้งหมดมันคือความฝันของเราเพียงคนเดียว"

ฉะนั้นไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะจมอยู่กับความฝันมากกว่าการได้รู้ความจริง การไม่ได้เป็นที่หนึ่งในใจเค้าไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า เราอาจได้เป็นที่ 2 ซึ่งมันก็ยังดีกว่าได้เป็นที่ 3 หรือ 4... และหากเราเป็นที่ 10 ในใจเค้า..... ก็ขอให้คิดไว้ว่าก็ยังดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเค้าเลย..... มันอาจต้องมีน้ำตาบ้าง ในการยอมรับความจริงว่าเราไม่ใช่ที่ 1... แต่โปรดจำไว้เถอะว่า หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดังๆพร้อมกับพูดกับตัวเองว่า... "ฉันเหนื่อยเหลือเกิน โปรดห้ามใจเถอะก่อนที่ฉันจะอ่อนล้าไปมากกว่านี้...."

ก็จงชอบต่อไปเถอะ การรักใครสักคนไม่ต้องการความพยายาม... การตัดใจต่างหากที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย ลองชั่งน้ำหนักในใจคุณดูสิว่า "ความสุขยามที่ได้สบตาเค้า" กับ "ความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า" อันไหนมันหนักหนากว่ากัน อย่าโทษตัวเองที่มาเจอเค้าสายเกินไป... อย่าโทษเค้าที่ไม่มีใจให้... อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน แต่ไม่ได้ทำให้เราใจตรงกัน...

แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง ที่อย่างน้อย ถึงจะพบเค้าคนนั้นสายเกินไป แต่ก็ยังได้พบ... ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา แต่ก็ยังได้รับหัวใจเราไป.... ยิ้มให้โชคชะตา ที่ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เรารักกัน แต่ก็ยังทำให้เราได้รู้จักกัน...

คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำ ที่ครั้งหนึ่ง... คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้มของเค้าไว้คนเดียว คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง... คนที่ทำให้คุณหัวเราะและร้องไห้ได้มากมาย... คนที่ยิ้มของเค้าเปลี่ยนวันที่หมองหม่นของคุณให้กลายเป็นวันที่สดใส... เท่านี้ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ?

แค่การได้เห็นคนที่เรารักได้หัวเราะอยู่กับใครสักคน คนที่เค้ารักมากที่สุด..... นั้นแหละคือ... ความสุขของการได้รัก...อย่างจริงใจ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++ปืนลั่ลล้าซิว 2-0 ลุ้นนำจ่าฝูงพุธนี้

"ปืนใหญ่"อาร์เซนอ ลเครื่องร้อนบุกเอาชนะโบลตันชนิดออกแรงกันลิ้นห้อย 2-0 จากประตูของเชสก์ ฟาเบรกัสและฟราน เมริด้าตัวสำรองไล่จี้เชลซีเข้ามาเหลือ 3 แต้มและหากเอาชนะโบลตันทีมเดิมในกลางสัปดาห์ก็จะนำฝูงร่วมเป็นครั้งแรกในฤดู กาลนี้กันเลย

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2553


โบลตัน 0-2 อาร์เซนอล

ประตู : 0-1 ฟากเบรกัส น.28,0-2 เมรด้า น.78


ครึ่งแรก

โบลตันลั่ลล้า
ยังไม่ถึงนาทีโบลตันเรียกว่าลุยแหลกเหมือนชาติก่อนไม่ชอบขี้หน้ากันมาจน ทำให้แนวรับ"ปืนใหญ่"ถึงกับเป๋และคลาสนิชยิงไกลฉีดยาเสียบมุมตุงตาข่ายแต่ ดันวิ่งมาจากตำแหน่งล้ำหน้าเลยชวดไป

เชสก์ยิงไกลเฉี่ยว
แต่นาทีที่ 5 อาร์เซนอลเกือบได้ประตูขึ้นนำหลังเชสก์รับบอลที่โรซิคกี้ป้ายกลับคืนมาให้ ตรงระยะ 25 หลาก่อนล็อกหนีโคเฮนแล้วยิงไกลบอลเหมือนโดนไม่เต็มหลุดเสาออกไปนิดเดียว

ปืนเริ่มมาแล้ว
ทีมเยือนเหมอนเครื่องจะติดและอีก 2 นาทีต่อมาเชสก์แทงทะลุให้เอดูอาร์โด้หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่ยัสเคไลเนนปรี่ ล้มตัวปัดจากเท้าก่อนกองหลังมารับช่วงต่อ

คลาสนิชตัวป่วน
แต่พอเล่นไปเรื่อยๆโบลตันกลับคุมเกมต่อบอลได้ลื่นกว่าและนาที 22 สไตน์สสันลากบอลหลังเพื่อนตัดจากกลางสนามมาถึงหน้าเขตโทษแล้วฝากต่อให้คลา สนิชที่จับแล้วพลิกยิงไซด์นอกเขตโทษแต่บอลไปตรงตัวอัลมูเนียที่ล้มรับเข้า ซองพอดี

ทีมเวิร์คเทพ!เชสก์ซัด 1-0
อย่างไรก็ตามนาที 29 กลายเป็น"ปืนใหญ่"ที่พลิกขึ้นนำ 1-0 จากลูกนัวเนียหน้าเขตโทษแล้วกองหลังโบลตันเคลียร์ไม่ขาดปล่อยให้เชสก์ทำชิ่ง 1-2 กับดูดู้โดยที่หอกโครแอทใช้ดีดข้างเท้าเร็วจนเชสก์วิ่งมาซัดในกรอบเลีย ดเสียบมุมผ่านมือยัสเคไลเนนเข้าไปเลย

ดาวรุ่งปืนเกือบเปิดซิง
อีก 2 นาทีเศษๆทีมเยือนน่าจะได้ลูกสองอย่างวที่สุดหลังจังหวะเตะมุมของเชสก์บอล โค้งเลยทุกคนมาหล่นใส่อีสต์มอนด์ดาวรุ่งที่แปเน้นๆระยะ 12 หลาแต่บอลเลียดไปตรงตัวยัสเคไลเนนที่ล้มตัวปัดแล้วพอล โรบินสันที่ไม่ใช่นายทวารเคลียร์ทิ้งก่อนใครเพื่อน

ลีได้ซัดเสียว
โบลตันทรงบอลยังไม่ยวบและยังพาบอลมาป้วนเปี้ยนเรื่อๆโดยก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีลี ชุน ยองเอาบอลที่เพิ่มเปิดข้ามฝากลงก่อนตะบันในเขตโทษเยื้องๆฝั่งขวาบอลพุ่งลอด ขาเพื่อนแต่อัลมูเนียมองเห็นล้มตัวรับเข้ามือพอดี

เชสก์เข้าฮอร์ตเฉี่ยวเสา
นาที 43 อาร์เซนอลต่อบอลสวยขึ้นมาอีกชุดจนเกือบได้ลูก 2 หลังดูดู้แทงทะลุให้อาร์ชาวินสอยขายิกๆวิ่งไล่ควบไปตบบอลที่เส้นหลังในเขตตบ ย้อนกลับมาให้ดูดู้ยกขาหลอกตรงระยะ 6 หลาแล้วเชสก์วิ่งมาแยงยิงบอลค่อยๆกลิ้งออกเสาอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกอาร์เซนอลนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

โบลตันขึงหนัก
ทีมเยือนงานหนักอีกแล้วหลังโบลตันโฆมยำใหญ่อย่างหนักโดยตอนนี้โอเว่น คอย์ลแก้เกมสั่งให้ลี ชุน ยองบุกขึ้นทางปีกขวาเล่นงานตราโอเร่ที่หลุดตลอดจนได้เปิดเข้ามาเสียว 2-3 ครั้งแล้ว

ตราโอเล่บ่อน้ำมัน
"ปืนใหญ่"รอดตายอีกแล้วหลังนาที 61 โบลตันต่อบอลกันหน้าประตูจนแนวรับทีมเยือนแตกไปคนละทางก่อนที่แมทธิว เทย์เลอร์จะได้บอลแทงทะลุเข้าเขตโทษจากคลาสนิชหลุดเข้าไปล่อเป้าอัลมูเนียใน เขตโทษแต่ตอนยิงซัดแหกคานออกไปน่าเกลียดมาก

เทย์เลอร์พลาดช็อก
อีก 10 นาทีต่อมาอาร์เซนอลที่เหมือนจะดีขึ้นแต่เป็นโบลตันที่ทิ้งโอกาสทองเองหลังโค เฮนวางบอลยาวจากกลางสนามให้แมทธิว เทย์เลอร์วิ่งสอดเพราะเฟอมาเลนดันไม่ทันจนหลุดเดี่ยวแบบโคตรๆแต่แข้งเจ้า ถิ่นไม่รู้คิดยังไงถึงรีบยิงไกลนอกเขตจนผ่านมืออัลมูเนียเฉี่ยวเสาออกไป นี่ลากเข้าไปยังได้เลย แฟนบอลร้องโอ้ยกันใหญ่

เมริด้าซูเปอร์ซับ 2-0
พอไม่ได้แล้วทีนี้ก่อนหมดเวลา 12 นาทีอาร์เซนอลมาได้เม็ดสองจากการลากขึ้นมาเองของเชสก์จนถึงหน้าเขตโทษแล้ว แทงออกซ้ายให้ดูดู้เปิดด้วยอีซ้ายย้อยโด่งแล้วไนท์โขกแบบสุดตัวเช็ดไปเข้า ทางฟราน เมริด้าตัวสำรองที่แล่บมาเสาสองจับลงแล้วซัดหักข้อบอลตุงหน้าต่างอีกฝั่ง เบียดเสาเข้าไปคมกริบ เวนเกอร์เปลี่ยนตัวเทพมาก

หมดเวลาอาร์เซนอลเช็กบิลปิดเกมเอาชนะ 2-0 มี 45 แต้มจาก 21 นัดและพร้อมส่งตัวเองขึ้นเป็นจ่าฝูงร่วมกับเชลซีหากเปิดบ้านเอาชนะโบลตันใน บ้านตัวเองในวันพุธนี้ได้อีกครั้ง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

โบลตัน :
ยุสซี่ ยัสเคไลเนน,เกทาร์ สไตน์สสัน,แกรี่ เคฮิลล์,แซท ไนท์,พอล โรบินสัน ,ลี ชุน ยอง,ฟาบริซ มูอัมบ้า(แม็คคาน น.61),ทาเมียร์ โคเฮน,แมทธิว เทย์เลอร์,อีวาน คลาสนิช,เควิน เดวีส์

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย,บาคารี่ ซาญ่า,วิลเลี่ยม กัลลาส์,โธมัส เฟอร์มาเลน ,อาร์มานด์ ตราโอเร่,เชสก์ ฟาเบรกัส,เคร็ก อีสต์มอนด์(เมริด้า น.63),วาสซิริกิ โรซิคกี้ (คลิชี่ น.74),เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา(เบล่า น.84),อังเดร อาร์ชาวิน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++ยกเลิกได้มั๊ย!?ปืนเกือบตายแป๊งตีเจ๊าทดเจ็บ

"ปืนใหญ่"อาร์เซนอลพ ลาดโอกาสสำคัญไล่เชลซีเข้ามาเหลือแต้มเดียวอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเล่นในบ้าน ตัวเองแท้ๆกลับต้องกระเสือกกระสนไล่ตามตีเสมอเอฟเวอร์ตันระทึกขวัญ 2-2 โดยได้ประตูจากโทมัส โรซิคกี้ตัวสำรองในช่วงทดเจ็บเลยรั้งอยู่อันดับ 3 ตาม 3 แต้มแต่เตะเท่ากันแล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2553


อาร์เซนอล 2-2 เอฟเวอร์ตัน

อากาศ : หิมะตก

ประตู : 0-1 ออสมัน น.12,1-1 เดนิลสัน น.28,1-2 พีนาร์ น.81,2-2 โรซิคกี้ น.90+2


นี่เป็นโอกาสอันดีที่อาร์เซนอลจะไล่จี้เชลซีเหลือแต้มเดียวหลังเป็นหนึ่งในสองจาก 7 คู่ที่สามารถทำการแข่งขันในวันเสาร์ได้

ครึ่งแรก

ท๊อฟฟี่มาดี
เอฟเวอร์ตันมาวันนี้ไม่มีกลัวเลยโดยนักเตะวิ่งสู้ฟัดและท้าดวลแบบเอา เรื่องเลยทำให้การต่อบอลสั้นของ"ปืนใหญ่"ดูแล้วยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่า ไหร่

ซาฮาเกือบทำช็อก
นาทีที่ 9 ทีมเยือนเกือบทำช็อกหลังพีนาร์ได้บอลเลยกลางสนามมา 10 หลาแล้วแถวนั้นมีแต่แข้งอาร์เซนอลรายล้อม 4-5 คนแล้วเหลือเห็นซาฮาอยู่อีกฝั่งหน้าเขตโทษเลยจ่ายตัดหลังเซนเตอร์ก่อนที่ อดีตแข้งแมนฯยูฯจะแต่งเข้าเขตโทษมานิดนึงแล้วเบียดล้มตราโอเล่ล้มลงแต่โชคดี ของอาร์เซนอลที่บอลมาเข้าเท้าขวาเลยยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

ปืนเสียวบ้าง
อีกนาทีเศษๆดิยาบี้วิ่งพลิกบอลที่เพื่อนทุ่มมาก่อนยิงหน้ากรอบบอลเลียดไปที่ หน้าปากประตูอาร์ชาวินล้มสไลด์ยิงตามน้ำไม่โดนออกหลังอย่างน่าเสียดาย

ออสมันโขก 1-0
และแล้วนาที 12 เอฟเวอร์ตันขึ้นนำก่อนจากจังหวะลูกเตะมุมของโดโนแวนแข้งใหม่ที่ย้อยไซด์มา ที่บริเวณจุดโทษซึ่งมีทั้งเคฮิลล์และเฟไลนี่ยืนอยู่แต่ออสมันไม่รู้มาจากไหน โถมมาโขกตัดหน้าบอลแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นที่ยืนคุมเส้นเสยเพดานตาข่ายเข้าไปเลย



กัลลาส์ดันสูง
พอโดนนำตอนนี้อาร์เซนอลไล่บดจนกลายเป็นบอลวันเวย์แล้วและนาที 22 ลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์เกือบตีเสมอหลังดิยาบี้หยอดบอลข้ามหัวกองหลังแล้วกัลลาส์ที่เติมมา ช่วยเกมรุกวิ่งมาถึงเส้นหลังจะกระดกให้ข้ามฮาวเวิร์ดแต่จังหวะไม่ดีถูกฮาวเวิร์ดเบียดล้มลงแล้วเบนส์เคลียร์ทิ้งทัน

ปืนเฮงตีเสมอ 1-1
แต่แล้วอีก 5 นาทีต่อมา"ปืนใหญ่"ตามตีเสมอจนได้จากลูกที่เอฟเวอร์ตันเคลียร์แล้วไม่พ้น ปล่อยให้อาร์ชาวินเก็บตกแล้วดีดให้ดูดู้ตรงเส้นเขตโทษแล้วหอกโครแอทป้ายคืน ให้เดนิลสันยิงไกลจากระยะ 25 หลาบอลไปแฉลบไฮติงก้าเปลี่ยนทางค่อยๆกลิ้งตรงกลางประตูผ่านฮาวเวิร์ดที่ทิ้ง ตัวไปแล้ว

ท๊อฟฟี่สวนเกือบนำ
อาร์เซนอลบุกเพลินๆก่อนหมดเวลา 10 นาทีเกือบโดนนำอีกหนหลังเนวิลล์เปิดบอลจากปีกขวาให้เคฮิลล์ที่โขกตั้งจากเสา สองมากลางประตูโดยที่อัลมูเนียหลุดตำแหน่งแล้วแต่บอลไปไม่ถึงโดโนแวนเลยถูก เคลียร์ทิ้งทัน

ครึ่งหลัง

เกมครึ่งหลังเหมือนผู้กำกับสั่งบทมากันเลยทีเดียวเพราะอาร์เซนอลปูระเบิดนา ปาล์มเข้าใส่"ท๊อฟฟี่"แบบข้างเดียวและเป็นการสู้กันของเกมรุกและรับท่ามกลาง หิมะที่ตกลงมาหนามากขึ้น

เอฟเวอร์ตันสวนได้ลุ้น
โดโนแวนถูกยืมมาแค่สองเดือนครึ่งน่าจะช่วยอะไรเอฟเวอร์ตันได้เยอะเพราะ เทคนิคดีเก็บบอลได้และนาที 52 พาตราโอเร่ทัวร์เข้าถึงริมกรอบเขตโทษแล้วจะเปิดเข้าในติดบล็อกก่อนมาเก็บตก ปั่นไซด์ไปเสาสองแต่ลึกเกินไปเพื่อนเข้าไม่ถึง

ทีมเยือนอุดแหลก
ตอนนี้ทุกๆครั้งที่แข้ง"ปืนใหญ่"พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษจะเจอกำแพงเรียง เป็นตับหาทางเจาะลำบากมากเรียกว่าขนาดจังหวะโอเพ่น เพลย์ปกติกัลลาส์กับเฟอร์มาเลนยังมาแจมด้วยส่วนทีมเยือนเฟไลนี่แทบจะเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟอีกคนเลยด้วยซ้ำ

ซาฮาพลาดอีกแล้ว
หลังรับอยู่นานนาที 62 ซาฮาหลุดมาหน้าเขตโทษก่อนลากเข้าซ้ายแล้วส่องยิงตรงหัวกระโหลกบอลแฉลบขากัลลาส์เฉียดเสานิดเดียว

แป้งเกือบฮีโร่
อีก 5 นาทีต่อมาอาร์เซนอลหวิดตีเสมอสุดๆหลังซาญ่าเปิดบอลจากปีกขวาย้อยน่ากลัวให้ โรซิคกี้พุ่งโขกจะตัดหน้าฮาวเวิร์ดแต่วืดทั้งคู่แถมอาร์ชาวินที่วันนี้เล่น ไม่ออกเพราะเจอพิษหิมะสไลด์เก็บตกวืดอีก

ปืนบ้าเลือดน่าขึ้นนำ
ตอนนี้เจ้าถิ่นปรับหมากมาใช้การเปิดบอลจากริมเส้นโดยใช้วิงแบ็คสองข้าง และเริ่มได้ผลเพราะแนวรับเอฟเวอร์ตันชักป่วนและนาที 71 ได้เตะมุมบอลย้อยมานอกกรอบให้เดนิลสันจับลงแล้วตะบันแต่ติดบล็อกบิลยาเลตดิน อฟตัวสำรองข้ามคานนิดเดียว

จากจังหวะเตะมุมอีกหนคราวนี้เฟอร์มาเลนเก็บตกแล้วตะบันด้วยอีซ้าย จากระยะ 7-8 หลาแต่ติดบล็อกเหลือเชื่อ นี่ถ้าไม่ติดบล็อกตาข่ายขาดแน่นอน

สนามชักไม่ไหว
สนามเละเข้าบอลกันเดือด
เกมระอุแล้วเพราะหิมะปกคลุมพื้นสนามจนกลายเป็นสีขาวเขียวทำให้เกมยิ่งเล่นยากเข้าไปอีกการเข้าปะทะ 50-50 ก็เริ่มมีมากขึ้นเช่นกัน

พีนาร์หลุดเดี่ยว
แต่แล้วนาทีต่อมา"ปืนใหญ่"ช็อกทั้งสนามหลังอาร์เซนอลบุกทั้งทีมเลยครึ่ง สนามมาหมดทำให้สวนกลับเคฮิลล์ได้บอลในแดนตัวเองแล้วมีสองผู้เล่นเจ้าถิ่น มารุมแต่แข้งทีมชาติออสเตรเลียโคตรเก๋าดึงจังหวะให้พีนาร์วิ่งทำทางทะลุมา เดี่ยวเลยจ่ายตัดให้เพื่อนรักกระชากโล่งโคตรๆจากกลางสนามเลี้ยงระมัดระวัง เพราะสนามลื่นก่อนดวลกับอัลมูเนียและใช้กดปุ่มแบบวินนิ่งภาคเก่าชิพข้ามมือ บอลค่อยๆกลิ้งเข้าไปสุดเทพ

เขี่ยปุ๊บปืนเกือบโดนเม็ด 3
บอลเขี่ยได้ไม่นานอาร์เซนอลเกือบโดนลูกสามอย่างรวดเร็วเมื่อเดนิลสัน เลี้ยงบอลอยู่กลางสนามดีๆแล้วทิ้งตัวล้มเพราะเจ็บขาแต่เอฟเวอร์ตันไม่หยุด เป็นเคฮิลล์แทงทะลุให้วอห์นหลุดเข้าไปถึงหน้าเขตโทษแต่ตอนยิงติดบล็อกอัลมู เนียที่ปรี่ออกมาปิดมุมเร็ว

แป้งตีเสมอทดเจ็บ
เกมทำท่าจะจจบเห่แต่แล้วทดเจ็บนาทีที่ 2 อาร์เซนอลมาตีเสมอได้จากจังหวะที่ดิยาบี้ลากตรงหน้าเขตโทษแล้วดึงฝูงแข้งทีม เยือนมาหาแล้วป้ายเบาๆให้โรซิคกี้วิ่งมาฉีดยายิงแฉลบขานีลล์ที่สไลด์บล็อก บอลข้ามตัวฮาวเวิร์ดที่ทิ้งตัวเซฟเข้าไปง่าย

หมดเวลาอาร์เซนอลโหมบุกไม่ทันการณ์ยังดีตีเสมอไม่แพ้คาบ้านแต่ก็ทำให้ต้อง ตามหลังเชลซี 3 แต้มและเตะเท่ากันแล้วส่วนเอฟเวอร์ตันยังไม่แพ้ใคร 6 นัดติดรังอันดับ 12 เท่าเดิม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล :
มานูเอล อัลมูเนีย 6,บาคารี่ ซาญ่า 6.5, วิลเลี่ยม กัลลาส์ 6,โธมัส เฟอร์มาเลน 6.5,อาร์มันด์ ตราโอเร่ 5.5,เดนิลสัน 7(เมริด้า น.84),วาซิริกิ ดิยาบี้ 6.5,อารอน แรมซีย์ 5.5(โรซิคกี้ น.65,6),ซาเมียร์ นาสรี่ 6,เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา 6.5(เบล่า น.75,6),อังเดร อาร์ชาวิน 6.5

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด 6.5,ฟิล เนวิลล์ 7.5,ลูคัส นีลล์ .5,จอห์นนี่ ไฮติงกา 7.5,เลจตัน เบนส์ 7,ลีออน ออสมัน 7,ทิม เคฮิลล์ 7.5,มารูยาน เฟไลนี่ 7.5,สตีเฟ่น พีนาร์ 7.5,แลนดอน โดโนแวน 8* (บิลยาเล็ตดินอฟ น.69,6.5),หลุยส์ ซาฮา 6.5(วอห์น น.74,5.5)

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++รองฝูงเป็นหมัน!ปืน-โบลตันเจอโรคเลื่อน






ความฝันขึ้นรองจ่าฝูง ไล่บี้เชลซีเหลือแต้มเดียวของขุนพลเดอะกันเนอร์สต้องฝันเปียกหลังเจอโรค เลื่อนที่กำลังระบาดหนัดจากพิษหิมะถล่มทั่วประเทศอังกฤษ

แมทช์อาร์เซนอล พบ โบลตันเป็นโปรแกรมล่าสุดที่ต้องเลื่อนออกไปหลังสภาพอากาศในอังกฤษเลวร้ายสุด ขีดโดยสนามเอมิเรสต์ สเตเดียมสามารถทำการแข่งขันได้เนื่องจากมีเครื่องระบายความร้อนอย่างดีแต่ รอบๆสนามมีหิมะหนาปกคลุมและการเดินทางตามถนนเป็นไปอย่างลำบากและอันตรายซึ่ง เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่รายการคาร์ลิ่ง คัพรอบรองชนะเลิศต้องเลือกออกไปทั้งสองคู่

"แม้ว่าได้พยายามทำทุกๆอย่างเพื่อให้เกมพบโบลตันในคืนวันพุธทำการแข่ง ขันไปได้การเปลี่ยนแปลงต่อสภาพอากาศอันเลวร้ายที่กระทันหันและคาดเดาไม่ได้ ในย่านไฮบิวรี่ทำให้เราไม่มีทางเลือกนอกจากเลื่อนการแข่งขันออกไป"อาร์เซนอ ลแถลงผ่านเวบไซต์

"เราอภัยสำหรับความไม่สะดวกที่ว่านี้เอาไว้ได้และขอกล่าวว่าไม่ใช่การ ตัดสินใจแบบขอไปที ความปลอดภัยของแฟนบอลและการเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญต่อความคิดของเรา"

"สโมสรจะประกาศวันที่ทำการแข่งขันใหม่และตั๋วทุกใบจะถูกนำเอาใช้ได้ในโปรแกรมใหม่"

สำหรับอาร์เซนอลอยากลงเล่นเกมนี้อย่างที่สุดเพราะหากพวกเขาชนะจะไล่เชล ซีเข้ามาเหลือแต้มเดียวคือจาก 41 เป็น 44 แต้มแซงหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาอยู่รองจ่าฝูงแทน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

+++ของเค้าดีจริง!ปืนโดนก่อนพลิกแซง 2-1



"ปืนใหญ่"อาร์เซนอลเกือบจองตั๋วไปเที่ยวนรกพร้อมแมน เชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวันเดียวกันหลังถูกเวสต์แฮมพลิกนำก่อนจนมาเร่งยิง ช่วง 12 นาทีสุดท้าย 2 เม็ดแซงเอาชนะ 2-1 เข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพหืดปูดคอ


เอฟเอ คัพ รอบสาม


วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2553


เวสต์แฮม 1-2 อาร์เซนอล


ประตู : 1-0 เดียมันติ น.45+1,1-1 แรมซีย์ น.78,1-2 เอดูอาร์โด้ น.83


ครึ่งแรก


เริ่มเกมมาเป็น"ปืนใหญ่"ที่เป็นฝ่ายครองเกมต่อบอลเข้าทำเวสต์แฮมที่ขาดตัวจริงทั้งปัญหาบาดเจ็บและติดโทษแบนมากมาย


แต่รูปเกมของ"ขุนค้อน"ยังพอไหวสร้างโอกาสได้พอสมควรแต่ยังไม่มีจังหวะยิงสวยๆใดๆเลย


มาริด้าส่องเข้ามือ

นาที 12 ซงลากพาทัวร์มาถึงหน้าเขตโทษแล้วฝากบอกให้ฟราน มาริด้าจับแล้วแต่งยิงไกลบอลพุ่งเลียดเข้ามือกรีน


ค้อนยังโงหัวไม่ขึ้น

เกม ของเจ้าถิ่นยังไม่ค่อยไปถึงแดนหน้าเท่าไหร่เพราะไม่มีตัวพักบอลแกร่งๆอย่าง คาร์ลตัน โคลทำให้ตอนนี้เกมเป็นวันเวย์ของอาร์เซนอลที่มาทั้งซ้ายและขวา หาก เป็นแบบนี้เรื่อยๆคงเท่ากับรอวันเสียประตูแน่นอน


ดูดู้ส้มหล่น

นาที 18 ทอม กินส์ไม่รู้คิดอะไรถึงจ่ายบอลหน้าเขตโทษไปเข้าอกดูดู้ที่ส่องด้วยอีซ้ายเลีย ดหน้ากรอบทำให้กรีนต้องล้มตัวปัดออกหลังเสียเตะมุม


เดียมันติลักไก่เกือบนำ

นาที 27 เวสต์ แฮมที่นานๆมาทีเกือบเฮจากจังหวะที่เดียมันติยึกยักตรงริมกรอบโทษฝั่งขวาก่อน ปั่นไซด์เหมือนจะส่งแต่หลอกยิงร้อนถึงฟาเบียงสกี้ต้องบินปัดมือเดียวออกหลัง ไปก่อน


เฟอร์มาเลนทำเสียว

อีก 3 นาทีต่อมาอาร์เซนอลได้เตะมุมกรีนออกมาปัดแล้วเข้าทางเฟอมาเลนเอี้ยวตัววอลเลย์สวนบอลข้ามคานออกไปเยอะเลย


เบล่าแยกเขี้ยวยิง

ก่อน หมดเวลา 5 นาทีเบล่าหอกแวมไพร์กระชากหลุดเข้าเขตโทษโดยมีตัวประกบตามมาเลย ต้องเร่งยิงด้วยอีซ้ายแต่กรีนล้มตัวรับข้างเสาเนียนกันไป


ปืนช็อกค้อนนำ 1-0

อาร์ เซนอลไม่ได้ประตูก็เคืองพออยู่แล้วแต่ทดเจ็บมาโดนเวสต์แฮมซัดหน้าตาเฉยหลัง โควัคจ่ายบอลทะลุให้เดียมันติที่ยืนเหลื่อมๆว่าจะล้ำหรือไม่ล้ำโดยที่ซิ ลแวสตร์พยายามดันเพื่อเช็กออฟแต่เดียมันติไม่สนลากเข้าไปล่อเป้ากับฟาเบียส กี้แล้วยังมีเวลาหันไปมองไลน์แมนจนสุดท้ายพามาถึงตรงบริเวณจุดโทษแล้วเอี้ยว ตัวจะยิงมุมไกลก่อนหลอกซัดอีกมุมฟาเบียงสกี้อ่านหน้าเท้าพุ่งปัดโดยนิดนึง บอลเบียดเสาเข้าไปสุดเสียว หมดครึ่งแรก"ขุนค้อน"พลิกนำ 1-0


ครึ่งหลัง


ค้อนเริ่มต้นก็ดุเลย

เริ่มเกมมาเจ้าถิ่นมาแบบมั่นใจอย่างเห็นได้ชัดและสตานิสลาสลากขึ้นมาแล้วส่องยิงหน้าเขตโทษแต่ฟาเบียงสกี้บินปัดออกข้างเสานิดเดียว


ปืนเผาโอกาส

อาร์ เซนอลออกแนวแบบเดิมอีกแล้วคือโอกาสมีต่อบอลก็เรื่อยๆแต่พอถึงคราวต้องจบ สกอร์กลับทำเสียของไปหมดโดยนาที 58 แรมซีย์ได้บอลจากเพื่อนตรงหน้ากรอบเขต โทษก่อนเอี้ยวตัวปั่นไซด์แต่ช้อนใต้ลูกเลยข้ามคานอย่างน่าเสียดาย


ดิยาบี้ยิง-ซงซ้ำยังไม่เข้า

นาที 72 ทีม เยือนชวดตีเสมอเหลือเชื่อหลังดูดู้ทำชิ่งกับซงก่อนแทงทะลุให้ดิยาบี้หลุด เข้าเขตโทษไปล่อเป้ากรีนแต่ตอนเอี้ยวตัวยิงให้ลอดแขนกลับติดบล็อกแล้วจังหวะ ซ้ำของซงก็ยังเป็นกรีนที่ยกมือบล็อกออกหลังอีก


แรมซีย์จุติซัดเสมอ 1-1

อย่าง ไรก็ตามนาที 78 อาร์เซนอลมาตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ซงได้บอลหน้าเขตโทษที่มี กองหลังเวสต์แฮมขึงเต็มไปหมดแล้วไม่รู้จะทำยังไงเลยฝากบอลให้เบล่าที่มีตัว ประกบยืนรายล้อมในกรอบไปหมดแถมยังเสียหลักล้มแต่ก็ยังอุตสาห์เขี่ยบอลให้แรม ซิย์หนีล้ำหน้าเข้าไปพลิกตัวยิงด้วยอีซ้ายเสียบหน้าต่างตีเสมอสวยงาม


ค้อนตะลึงปืนนำเฉย!!

ตี เสมอได้ไม่นาน"ปืนใหญ่"พลิกนำอยางรวดเร็วในอีก 5 นาทีต่อมาเมื่อเบล่าไปรับ บอลจากซงตรงริมเส้นแล้วเปิดครอสวัดดวให้ดูดู้ชิงโขกเหนืออัพสันแล้วระยะไกล พอสมควรแต่บอลย้อยยัดเข้าสามเหลี่ยมกรีนพุ่งปัดโดยปลายนิ้วบอลเข้าไปตุง ตาข่าย ถือว่าเสียหายหลายแสนเพราะในกรอบมีดูดู้คนเดียวและรายล้อมไปด้วยแข้ง เจ้าถิ่น 4-5 คนเลยทีเดียว


ดูดู้ติดใจ

ตอนนี้ไปๆมาๆกลายเป็น อาร์เซนอลที่เล่นงานเจ้าถิ่นด้วยลูกหัวและก่อนหมดเวลา 3 นาทีดูดู้โถมมาโขก ลูกเตะมุมเต็มกบาลเฉี่ยวคานแบบน่าเข้าสุดๆ


แรมซีย์ชวดเบิ้ล

ทดเจ็บนาทีที่ 3 แรมซีย์เกือบบวกเม็ดสองให้ตัวเองหลังหลุดเข้าไปล้มตัวยิงในเขตโทษมุมแคบแต่กรีนออกมาบล็อกทั้งตัว


หมด เวลาอาร์เซนอลบุกมาเอาชนะเวสต์แฮมเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพและมีคิวเตะโบลตันนัด ตกค้างในวันพุธซึ่งหากเอาชนะได้จะจี้เชลซีเข้ามาเหลือแต้มเดียวทันที


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


เวสต์ แฮม : โรเบิร์ต กรีน 7,ชูแล็ง โฟแบร์ 6,เจมส์ ทอมกินส์ 6,แมทธิว อัพสัน 7, ฟาบิโอ ดาเปรล่า 6,วาลอน เบาห์รามี่ 6,หลุยส์ ฆิมิเนส 6,ราโดสลาฟ โควัค 7, อเลสซานโดร เดียมันติ 8,จูเนียร์ สตานิสลาส 6(เอ็ดการ์ น.87),แฟร็งค์ นู เบิ้ล 6(เซียร์ส น.79)


อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียงสกี้ 7,บาคารี่ ซา ญ่า 6,โธมัส เฟอร์มาเลน 6,วิลเลี่ยม กัลลาส์ 7,มิกาเอล ซิลแวสตร์ 6,อเล็ก ซานเดอร์ ซง 8 *,อารอน แรมซีย์ 7,ฟราน เมริด้า 6(นาสรี่ น.65.6),แจ็ค วิ ลเชียร์ 6(ดิยาบี้ น.65.7),คาร์ลอส เบล่า 6,เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา 7


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS